รองเท้างิ้ว
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ชุดและหมวกในการแสดงงิ้วโดยจะเลือกใช้ตามเพศและสถานะของตัวละครต่างๆ
รองเท้าชนิดนี้มีลักษณะคล้ายรองเท้าบู๊ทในปัจจุบัน
ต่างกันที่เสริมพื้นรองเท้าให้หนา เพื่อให้ตัวละครที่ใส่ดูสูงโปร่งและสง่างาม
ใช้กับตัวละครชายหรือตัวละครหญิงที่ปลอมเป็นชาย ใช้ได้กับทั้งบทดีและบทร้าย
ทั้งบุ๋นและบู๊เป็นรองเท้าที่นักแสดงชายใช้บ่อยที่สุดก็ว่าได้ซึ่งรองเท้าประเภทนี้อาจมีการประดับประดาให้สวยงามด้วยการเพิ่มลายปักมังกรลงไปก็ได้เช่นกัน
โดยมากใช้สีดำ แต่หากมีการปักลายมังกร อาจเลือกใช้รองเท้าที่มีพื้นสีเดียวกับชุดแล้วปักลายด้วยสีที่ตัดกันตามขนบการเลือกใช้สีของงิ้ว
รองเท้าชนิดนี้มีลักษณะเหมือนกับรองเท้าบู๊ทพื้นหนาทุกประการเพียงแต่มีพื้นบางกว่าใช้กับตัวตลก
เพื่อให้ง่ายต่อการแสดงท่าทางเคลื่อนไหวตามเอกลักษณะของบทบาทนี้รองเท้าประเภทนี้ได้แบบมาจากรองเท้าของขุนนางในสมัยราชวงศ์ชิง
ด้านหน้าของรองเท้ามีตัวอักษรมงคล 福 แปลว่าวาสนาหรือความสุข รองเท้าประเภทนี้ใช้กับบทบุ๋น หากใช้กับบทตัวละครชาย
มักจะเป็นเลือกใช้สีน้ำเงิน หากใช้กับบทหญิงชรามักจะเป็นสีทองแดงหรือสีเขียวขี้ม้า โดยจะทำส้นให้บางกว่าแบบที่ตัวละครชายสวมใส่
รองเท้าประเภทนี้เหมือนกับรองเท้ามงคล
ต่างกันตรงที่บริเวณหัวรองเท้าทำนูนขึ้นและมีลวดลายสิริมงคลและลายเมฆตกแต่ง
พื้นรองเท้าสูงประมาณ 2-3 นิ้ว
ใช้กับตัวละครเทพ เซียนหรือผู้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ
รองเท้าประเภทนี้ได้แบบมาจากรองเท้าแบบหนึ่งในสมัยราชวงศ์ชิง
ใช้กับบทผู้มีความสามารถในการต่อสู้ที่ไม่ได้ใส่ชุดเกราะ
โดยปกติผู้ชายจะใช้สีดำล้วน หากเป็นผู้หญิงจะใช้สีเข้ากับชุดและปักลายดอกไม้
ผีเสื้อ ฯลฯ
หากเป็นบทซึงหงอคงก็จะใช้เป็นพื้นสีเหลืองและปักลายเพื่อให้เข้ากับชุดและหมวกที่มีสีเหลืองเช่นกัน
(หากไม่สะดวกก็สามารถใช้สีดำล้วนได้)
รองเท้าปักนี้เป็นรองเท้าที่ตัวละครหญิงใช้มากที่สุด สีที่ใช้ประจำคือ
แดง ฟ้า ขาว ชมพู น้ำเงิน โดยที่หัวรองเท้าจะมีพู่ประดับ
ลวดลายบนรองเท้ามีทั้งลายดอกไม้ ผีเสื้อ หงส์ นก ฯลฯ
อาจจะเลือกปักให้เข้ากับชุดที่สวมใส่ โดยจะต้องใส่กับ "ถุงเท้าสีขาว"
เท่านั้น ในความเป็นจริง ตัวละครหญิงบนเวทีงิ้ว จะสวมกระโปรงคลุมเท้า
เพราะฉะนั้นโดยปกติจะมองไม่เห็นรองเท้าชัดเจน
อาจจะเห็นบ้างคือในส่วนของพู่เวลาที่มีการเคลื่อนไหว
แต่ถึงกระนั้นนักแสดงบางคนก็ยังใส่ใจในรายละเอียดของรองเท้า
เพื่อความสมบูรณ์และสวยงามที่ต้องการจะนำเสนอให้กับผู้ชมสำหรับนักแสดงที่ต้องการเพิ่มความสูงก็จะเสริมพื้นรองเท้าจากด้านในให้สูงขึ้น
และทำขอบรองเท้าเพิ่มเพื่อใ้ห้รองเท้าดูสมส่วนเช่นเดิม
รองเท้าแมนจู ใช้กับบทสตรีชนกลุ่มน้อย
ในงิ้วปักกิ่งจะใช้คู่กับชุดแมนจูและหมวกแมนจูโดยพื้นของรองเท้าจะยกสูงตรงกลาง
มีลักษณะคล้ายกระถางต้นไม้รองอยู่ใต้รองเท้า รองเท้าประเภทนี้ได้แบบมาจากรองเท้าของสตรีในราชสำนักสมัยราชวงศ์ชิง
ในงิ้วปักกิ่งจึงมักกำหนดให้บทหญิงที่ไม่ใช่ชาวฮั่นทุกเชื้อชาติ
สวมใส่ชุดแมนจูตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่อเป็นการจำแนกให้คนดูเข้าใจง่ายขึ้น
หากเมื่อออกรบ ก็จะใส่ชุดเกราะและประดับด้วยหางจิ้งจอกเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนชนเผ่าในขณะแสดงบทบู๊
รองเท้าจิ๋วนี้ มีขนาดความยาวประมาณ 3-5 นิ้ว
เป็นรองเท้าที่ทำขึ้นมาเพื่อเลียนแบบผู้หญิงจีนในสังคมจีนที่ต้องรัดเท้ากัน
โดยแบ่งออกเป็นสองแบบ คือแบบอ่อนและแบบแข็ง
แบบอ่อนจะใช้กับบทฮวาตั้นคือพวกบทสาวน้อยต่างๆส่วนแบบแข็งจะใช้กับบทอู่ตั้นหรือนางเอกบู๊รองเท้าประเภทนี้ถูกยกเลิกจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเพราะในสมัยนั้นถือเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการกดขี่สตรีและการฝึกฝนก็มีอันตรายเป็นอันมาก
แต่ในปัจจุบันก็ยังมีผู้สนใจที่จะฝึกหัดการแสดงด้วยรองเท้านี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งภูมิปัญญาบนเวทีการแสดง
ผู้ฝึกต้องใช้ความอดทนและอุตสาหะอย่างสูง
เพราะต้องอดทนต่อความเจ็บปวดเมื่อสวมใส่รองเท้าขนาดเล็กคู่นี้การแสดงด้วยรองเท้าประเภทนี้ในปัจจุบันมีเพียงงิ้วปักกิ่งและงิ้วกวางตุ้งที่ยังคงหลงเหลือให้เห็น
รองเท้าแต่ละประเภท
มีรูปแบบการใช้งานที่ต่างกัน
รวมไปถึงการย่างก้าวที่ต่างกันไปตามประเภทของรองเท้าและบทบาทตัวละครนักแสดงมืออาชีพจะสวมใส่รองเท้าต่างๆเหล่านี้ในขณะเรียนและซ้อมเสมอ
เพื่อให้เกิดความเคยชินและแสดงออกมาได้ด้วยท่าทางที่สวยงามและถูกต้องตามหลักการแสดง
*หมายเหตุ: ที่กล่าวมาทั้งหมด
งิ้วบางประเภทไม่มีการนำมาใช้ และยังมีรองเท้าแบบอื่นที่ไม่ได้นำมากล่าวไว้ เช่น
รองเท้าหัวเสือ รองเท้าพระ ฯลฯ
ซึ่งมีขอบเขตการใช้งานน้อยและมักใช้เฉพาะกับตัวละครบางตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น